คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ

บริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสังกะสีขึ้นรูปตามความต้องการของลูกค้าโดยใช้แม่พิมพ์ในการผลิตเป็นหลักในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมยายนต์ อุสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องจักรทางการเกษตร

ในปี 2566 บริษัทฯ ได้ปรับปรุงขบวนการผลิต และ ควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในปี 2566 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น 7.23% เมื่อเทียบกับปี 2565 ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดปัจจุบันและอนาคตของบริษัท เป็นดังนี้

การดำเนินงานและฐานะทางการเงิน

ในปี 2566 บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับปีจำนวน 54.61 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 7.10 ของรายได้รวม ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 769.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 51.91 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 7.23 เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งมั่นใจในคุณภาพและราคา และมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 19.32 กำไรจากการดำเนินงานจำนวน 69.58 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 9.04 ของรายได้รวม

ในปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับปีจำนวน 22.01 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.07 ของรายได้รวม ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 717.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 66.40 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 10.19 เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งมั่นใจในคุณภาพและราคา และมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 14.42 กำไรจากการดำเนินงานจำนวน 16.92 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.60 ของรายได้รวม

ในปี 2564 บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับปีจำนวน 13.50 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.07 ของรายได้รวม ซึ่งในปีนี้บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 651.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 201.46 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 44.79 เนื่องจากมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ซึ่งมั่นใจในคุณภาพและราคา และมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 14.65 กำไรจากการดำเนินงานจำนวน 16.92 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.90 ของรายได้รวม

ทั้งนี้มาจากการบริหารจัดการต้นทุน การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และปรับกำลังการผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงราคาวัตถุดิบที่มีราคาต่ำลง และทรัพย์สินที่ใช้ในการผลิตยังคงมีประสิทธิภาพอยู่ในขณะที่มูลค่าได้ลดลงแล้ว

รายได้

บริษัทนำมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับปรับปรุงรวมทั้งแนวปฏิบัติทางบัญชี หลายฉบับซึ่งมีผลบังคับใช้สำหรับงบการเงินที่มีรอบระยะเวลาบัญชีเริ่มในหรือ หลังวันที่ 1 มกราคม 2566 มาถือปฏิบัติ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ได้รับการปรับปรุงหรือ จัดให้มีขึ้นเพื่อให้มีเนื้อหาเท่าเทียมกับมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นการอธิบายให้ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติและแนวปฏิบัติทางบัญชีกับผู้ใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน

สินทรัพย์

บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม ณ วันสิ้นปี 2566 ปี 2565 และปี 2564 จำนวน 541.99 ล้านบาท 513.67 ล้านบาท และ 497.80 ล้านบาท

ปี 2566 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 541.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565จำนวน 28.32 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 5.51 ของปีก่อน จาก ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ เพิ่มขึ้น 35.35 ล้านบาท เนื่องจากการสั่งซื้อเครื่องจักรเพิ่มขึ้น ตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น

สินทรัพย์รวม แบ่งเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 279.33 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 51.54 ของสินทรัพย์รวม และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวน 262.66 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 48.46 ของสินทรัพย์รวม

ปี 2565 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 513.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 15.87 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 3.19 ของปีก่อน จาก ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ทั้งนี้มาจากรายได้และคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นรวมถึงลงทุนเพิ่มเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น

สินทรัพย์รวมแบ่งเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 231.03 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 44.98 ของสินทรัพย์รวม และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวน 282.64 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 55.02 ของสินทรัพย์รวม

ปี 2564 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมจำนวน 497.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 62.98 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 14.48 ของปีก่อน จากบัญชีลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ และ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ทั้งนี้มาจากรายได้และคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นรวมถึงลงทุนเพิ่มเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตามคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น

สินทรัพย์รวมแบ่งเป็นสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 238.06 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 47.82 ของสินทรัพย์รวม และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนจำนวน 259.74 ล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 52.18 ของสินทรัพย์รวม

ลูกหนี้การค้าและรายได้ค้างรับและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและค่าเผื่อขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

นโยบายการบัญชีใหม่ บริษัทปันส่วนราคาขายแม่พิมพ์และชิ้นส่วนอลูมิเนียม บริษัทรับรู้รายได้และต้นทุนขายแม่พิมพ์เมื่อลูกค้าอนุมัติความถูกต้องของแม่พิมพ์ พร้อมทั้งรับรู้มูลค่าปัจจุบันของมูลค่าที่คาดว่าจะได้รับของรายได้ค้างรับและรายได้ทางการเงินรอรับรู้ ซึ่งได้รวมอยู่ในส่วนของลูกหนี้การค้าและรายได้ค้างรับ

บริษัทฯกำหนดนโยบายการให้เครดิตหรือระยเวลาในการรับชำระเงินจากลูกค้าระหว่าง 30 – 90 วัน ซึ่งบริษัทจะพิจารณาการให้ระยะเวลาการชำระหนี้ของลูกค้าจากยอดคำสั่งซื้อ และฐานะทางการเงินของลูกค้าแต่ละราย

ณ สิ้นปี 2566 ปี 2565 และปี 2564 บริษัทฯมีลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่นสุทธิจำนวน 121.40 ล้านบาท จำนวน 122.72 ล้านบาท และจำนวน 114.26 ล้านบาท ตามลำดับ โดยลูกหนี้ที่เพิ่มขึ้น จากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น ตามตารางวิเคราะห์อายุหนี้

สินค้าคงเหลือและค่าเผื่อการลดมูลค่าสินค้า

ณ วันสิ้นปี 2566 ปี 2565 ปี 2564 บริษัทฯมีสินค้าคงเหลือจำนวน 92.91 ล้านบาท 72.14 ล้านบาท และ 87.05 ล้านบาท ตามลำดับ และมีอัตราส่วนหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือในปี 2566 เท่ากับ 7.52 เท่า ปี 2565 เท่ากับ 7.72 เท่า ปี 2564 เท่ากับ 7.69 เท่า โดยมีอัตราขายสินค้าเฉลี่ยในปี 2566 อยู่ที่ 48 วัน ปี 2565 อยู่ที่ 47 วัน ปี 2564 อยู่ที่ 47 วัน

หนี้สิน

บริษัทฯ มีหนี้สินรวม ณ วันสิ้น ปี 2566 ปี 2565 และ ปี 2564 ตามลำดับ จำนวน 281.61 ล้านบาท 305.25 ล้านบาทและ 310.97 ล้านบาท ประกอบด้วยหนี้สินหมุนเวียนจำนวน 223.86 ล้านบาท 223.65 ล้านบาท และ 234.91 ล้านบาท ตามลำดับ

หนี้สินไม่หมุนเวียนในปี 2566 บริษัทฯ จำนวน 61.75 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 เท่ากับ 19.85 ล้านบาท จากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 15.72 ล้านบาท และ หนี้สินตามสัญญาเช่าระยะยาวลดลง 10.39 ล้านบาท จากการชำระคืนตามสัญญาเช่าซื้อเครื่องจักร

บริษัทฯ มีอัตราส่วนของหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในปี 2566 คิดเป็น 1.11 เท่า ในปี 2565 คิดเป็น 1.46 เท่า ปี 2564 คิดเป็น 1.66 เท่า ซึ่งในปี 2566 ลดลงจากการจ่ายชำหนี้สินระยะยาวเพิ่มขึ้น ประกอบกับบริษัทมีผลประกอบที่เพิ่มขึ้นจากปี 2565 เท่ากับ 32.60 ล้านบาท อย่างไรก้อตาม บริษัทฯ ยังคงดำรงสัดส่วนทางการเงินได้ตามเงื่อนไขที่สถาบันการเงินกำหนด

ส่วนของผู้ถือหุ้น

ณ วันสิ้นปี บริษัทฯ มีส่วนของผู้ถือหุ้น ปี 2566 ปี 2565 และ ปี 2564 ตามลำดับ จำนวน 256.39 ล้านบาท จำนวน 208.42 ล้านบาท และ จำนวน 186.84 ล้านบาท ตามลำดับ โดยในปี 2566 ส่วนของผู้ถือหุ้น จำนวน 256.39 ล้านบาท ประกอบด้วยทุนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วจำนวน 316,662,232 หุ้นมูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 158.33 ล้านบาท มีส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญจำนวน จำนวน 20.83 ล้านบาท รวมสำรองตามกฎหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิประจำปีหักด้วยขาดทุนสะสมยกมา (ถ้ามี) จนกว่าทุนสำรองจะมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียนจำนวน 7.20 ล้านบาท รวมถึงกำไรสะสม ณ วันสิ้นปี 2566 อีกจำนวน 70.02 ล้านบาท โดยส่วนของผู้ถือหุ้นรวม เพิ่มขึ้นจากปี 2565 เท่ากับ 47.97 ล้านบาท จากกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในปี 2566 เท่ากับ 54.62 ล้านบาท เป็นสำคัญ

บริษัทฯ มีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในปี 2566 เท่ากับ ร้อยละ 21.30 ปี 2565 เท่ากับ ร้อยละ 10.56 และ ปี 2564 ร้อยละ 7.23 ตามลำดับ

กระแสเงินสด

จากการดำเนินงานของบริษัท ณ วันสิ้นปี 2566 ปี 2565 และปี 2564 มีกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 36.72 ล้านบาท 13.28 ล้านบาท และ 17.15 ล้านบาท ตามลำดับ

ปี 2566 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน เท่ากับ 90.44 ล้านบาท จากผลกำไรสุทธิประจำปี และจากการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ ดีขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2565

ปี 2566 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนจำนวน (12.48) ล้านบาท จากการลงทุนซื้อเครื่องจักร เพื่อรองรับการผลิตและคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ

ปี 2566 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหา จำนวน (54.52) ล้านบาท จากการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวสถาบันการเงิน (17.55) ล้านบาท และ ชำระคืนเงินหนี้สินตามสัญญาเช่า ตามสัญญาฯ (20.04) ล้านบาท

ปี 2565 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน เท่ากับ 80.12 ล้านบาท จากผลกำไรสุทธิประจำปี และจากการบริหารสินทรัพย์และหนี้สินหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพ ดีขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน เท่ากับ (2.13) ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.25 ล้านบาท และเพิ่มขึ่นจากปี 2563 เท่ากับ 55.41 ล้านบาท

ปี 2565 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนจำนวน (39.90) ล้านบาท จากการลงทุนซื้อเครื่องจักร เพื่อรองรับการผลิตและคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ

ปี 2565 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหา จำนวน (44.41) ล้านบาท จากการชำระคืนเงินเบิกเกินบัญชี (12.76) ล้านบาท และ ชำระคืนเงินยืมบริษัทที่เกี่ยวข้องจำนวน (17 ) ล้านบาท

ปี 2564 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดสุทธิจำนวน (5.07) ล้านบาท จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจำนวน (2.13) ล้านบาท

ปี 2564 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนจำนวน (6.46) ล้านบาท จากการซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์สุทธิจำนวน 6.43 ล้านบาท ซื้อสินทรัพย์ซอฟ์แวร์ในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์จำนวน 0.17 ล้านบาท และจำหน่ายอุปกรณ์จำนวน 0.15 ล้านบาท

ปี 2564 บริษัทฯ มีกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหา จำนวน 3.52 ล้านบาทจาก เป็นผลมาจากการเงินรับจากการกู้ยืมสุทธิจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินจำนวน 27.59 ล้านบาท รับและจ่ายชำระคืนเงินกู้ยืมบริษัทที่เกี่ยวข้องจำนวน 5.74 ล้านบาท และจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่าจำนวน 22.24 ล้านบาท รวมถึงจ่ายชำระดอกเบี้ยจากการกู้ยืมจำนวน 7.57 ล้านบาท

ปัจจัยที่มีผลต่อฐานะทางการเงินและการดำเนินงานในอนาคต

ในปี 2566 ต่อเนื่องปี 2565 บริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องและมีอัตราเพิ้มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาวัตถุดิบหลัก (อะลูมิเนียม) ที่ผันผวนน้อยลง รวมถึงการควบคุมต้นทุนการผลิต และรณรงค์การสร้างจิตสำนักการลดต้นทุน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยระบบอบรมพัฒนาพนักงานอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงปรับกลยุทธด้านการตลาด และสร้างมาตรฐานด้านความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าทั้ง ด้านคุณภาพและบริการจัดส่งที่ตรงต่อเวลาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้บริษัทฯได้ขยายฐานลูกค้าและเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อสร้างยอดขายให้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเน้นย้ำนโยบายความยั่งยืนโดยคำนึงถึงผลกระทบด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณาและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด
1. ลดปริมาณของเสียจากกระบวนการผลิต (Zero waste)
2. ใช้พลังงานและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ และวัตถุดิบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
4. ลดปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

อัตราส่วนทางการเงิน

อัตราส่วนสภาพคล่อง (Liquidity Ratio)

อัตราส่วนสภาพคล่องจากส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียนต่อหนี้สินหมุนเวียนซึ่งปรากฎในแต่ละปีดังนี้ ปี 2566 คิดเป็น 1.25 เท่าเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทมีสภาพคล่องจากผลดำเนินงานและบริหารสินทรัพย์หมุนเวียนและหนี้สินหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขึ้นจากอัตราส่วนสภาพคล่องในปี 2565 และ 2564 ที่มีอัตราเท่ากับ 1.03 เท่า และ 1.01 เท่า ตามลำดับ ส่วนอัตราส่วนสภาพคล่องอื่นๆในปี 2565 เป็นไปตามการดำเนินงานปกติ

วงจรเงินสด (Cash cycle) ในปี 2566 เท่ากับ 34 วัน อยู่ในระดับที่ดึขึ้น (ลดลงถือว่าดี) หมายความบริษัทมีสภาพคล่องทางกระแสเงินสด ดีขึ้นจากปี 2565 และปี 2564

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอต่อการดำเนินกิจการต่อไป ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้คงคุณภาพและบริการที่ดีจนเป็นที่พึงพอใจของลูกค้าตลอดมา

อัตราส่วนแสดงความสามารถในการทำกำไร (Profitability ratio)

อัตราส่วนและความสามารถในการทำกำไรตามตารางด้านล่าง ซึ่งในปี 2566 บริษัทมีผลกำไร โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 19.32 และ อัตรากำไรสุทธร้อยละ 7.10 รวมถึงอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นร้อยละ 21.30 ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน เช่น ยอดรายได้เพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น ทั้งนี้ได้อธิบายไว้ในส่วนของผลการดำเนินงานในข้างต้น

อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน (Financial policy ratio)

ในส่วนของอัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายทางการเงิน (Financial policy ratio) ซึ่งบริษัทยังคงรักษาเงื่อนไขการดำรงสัดส่วนทางการเงินจากสถาบันการเงินได้ และทำได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น และบริษัทเชื่อมั่นว่ามีความสามารถเพียงพอสำหรับการจ่ายชำระภาระผูกพันได้ตลอดจนครบสัญญา